hate dara
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
hate dara

ถ, , , , , ้, , , , , า, , , , , ค, , , , , ุ, , , , , ณ, , , , , เ, , , , , ก, , , , , ล, , , , , ี, , , , , ย, , , , , ด, , , , , ด, , , , , า, , , , , ร, , , , , า, , , , ,
 
เธšเน‰เธฒเธ™เธšเน‰เธฒเธ™  เธ„เน‰เธ™เธซเธฒเธ„เน‰เธ™เธซเธฒ  Latest imagesLatest images  เธชเธกเธฑเธ„เธฃเธชเธกเธฒเธŠเธดเธ(Register)เธชเธกเธฑเธ„เธฃเธชเธกเธฒเธŠเธดเธ(Register)  เน€เธ‚เน‰เธฒเธชเธนเนˆเธฃเธฐเธšเธš(Log in)  

 

 อีดอกกกตอแหลลลลลแม้กระทั่งวันเด็ก

Go down 
เธœเธนเน‰เธ•เธฑเน‰เธ‡เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก
E-FIคนเริงเมือง

E-FIคนเริงเมือง


เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 58
Registration date : 27/12/2006

อีดอกกกตอแหลลลลลแม้กระทั่งวันเด็ก Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: อีดอกกกตอแหลลลลลแม้กระทั่งวันเด็ก   อีดอกกกตอแหลลลลลแม้กระทั่งวันเด็ก Icon_minitimeWed Jan 24, 2007 6:56 am

จากhttp://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03ent01140150&day=2007/01/14

อีดอกกกตอแหลลลลลแม้กระทั่งวันเด็ก 200701131125512

เธญเน‰เธฒเธ‡เธญเธดเธ‡เธˆเธฒเธ :
หากนึกถึง "ดาวดวงน้อย" ที่โลดแล่นในแวดวงมายา หนึ่งในนั้นคงไม่พ้น "น้องโฟกัส"โฟกัส จีระกุล หรือ "น้อยหน่า" จากภาพยนตร์ยอดฮิต "แฟนฉัน" เมื่อ 4 ปีที่แล้ว

ผ่านมาเกือบ 4 ปี วันนี้ของ "โฟกัส" ดูโตขึ้นเป็นกอง เจ้าตัวรีบบอก

"มีคนทักแบบนี้เยอะมากค่ะ เพราะตอนเล่นหนังตัวเล็กนิดเดียว ตอนนี้หนูสูง 160 ซ.ม.แล้วค่ะ" โฟกัสอวดความสูง

และร่ายต่อว่า "หนูเกิดที่กรุงเทพฯ ค่ะ เป็นลูกคนเดียวของคุณพ่อคุณแม่(นภาพล-สุพิตา) แต่ไม่ได้โดนตามใจ แถมบางทีอาจจะเคร่งครัดมากกว่าเด็กทั่วไปด้วยซ้ำ หนูต้องซักถุงเท้า ทำงานบ้าน แม่ให้ล้างจานก็ต้องล้าง ที่จริงไม่ได้ชอบนะ หนูก็เหมือนเด็กทั่วไปที่มีความขี้เกียจอยู่ในตัวเยอะ แต่แม่สั่งก็ต้องทำ" ดาราสาวรุ่นจิ๋วครวญ

ถามนิสัยส่วนตัว เจ้าตัวสารภาพ "เป็นเด็กที่พูดเก่ง เอาใจคนเก่ง สนิทกับคนง่ายและเข้ากับคนง่ายด้วย เจอครั้งแรกอาจจะไม่สนิทเท่าไร แต่ถ้าได้คุยกันสักครึ่งวันคราวนี้คุยยาวเลย" อันนี้จริง ขอคอนเฟิร์ม

เพราะฉะนั้นไม่แปลกที่อยู่โรงเรียน ด.ญ.โฟกัสจะมีเพื่อนเยอะ

"ตอนย้ายเข้าม.1ที่ร.ร.เบญจมราชาลัยใหม่ๆ คนในโรงเรียนจะมองเด็กที่เข้ามาใหม่หยิ่ง ทั้งที่เค้าไม่เคยรู้จักหนูมาก่อน ส่วนคนที่รู้จักก็จะบอกว่าไม่เห็นหยิ่ง จะออกแนวทะลึ่งทะเล้นด้วยซ้ำไป ที่สำคัญคือซน แล้วซนแบบเด็กผู้ชาย ชอบเล่นเตะต่อย เล่นแรงๆ หนูจะชอบเล่นกับพวกผู้ชายมากกว่า คือเมื่อก่อนหนูจะเรียนที่ร.ร.วัดอัมรินทรารามซึ่งเป็นสหศึกษา แต่ตอนนี้ย้ายมาอยู่โรงเรียนหญิงล้วนก็จำเป็นที่จะต้องเล่นกับเด็กผู้หญิง"

"ซึ่งปกติหนูชอบแกล้งเด็กผู้ชาย พอมาอยู่ที่นี่ไม่มีให้แกล้ง ผู้หญิงก็คือผู้หญิง เล่นแรงๆ ไม่ได้ เพื่อนกันก็ไม่อยากจะแกล้ง แล้วไหนจะมีทอมมาจีบอีก แล้วหนูเป็นคนที่ไม่ชอบทอม แต่เวลาที่เค้ามาคุยด้วยหนูก็จะแบบว่าเฉไฉไปเรื่องอื่น จนเค้ามองว่าหนูพูดมากไปเลย"

เอ...หรือจะเป็นทอมซะเอง "อึ๋ย...หนู่เปล่าเป็นนะ แต่หนูจะเป็นคนห้าวๆ ก็แค่นั้นเอง"

เข้ามาเรียนใหม่ๆ เพื่อนขอลายเซ็นเยอะมั้ย "ตอนเข้าม.1ใหม่ๆ ก็มีเหมือนกัน แต่พอขึ้นม.2 ก็เริ่มปกติเพราะเขาเห็นเราจนชิน ส่วนใหญ่คนจะรู้จักแทบทั้งโรงเรียน แต่หนูแทบจะไม่รู้จักใครเลย แรกๆ ยอมรับเลยตอนเดินเข้าโรงเรียนมึนๆ ไปเลย มันเหมือนมีคนมองเราตลอดเวลา มีการกระซิบกันด้วยนะ จนแอบคิดว่าแล้วนี่หนูจะไปอยู่กับใครล่ะเนี่ย กลายเป็นว่าหนูต้องไปทักเค้าก่อน เพราะก็คงไม่มีกล้ามาทักหนูอยู่แล้ว แต่หนูก็ไม่ได้เกร็งว่าจะต้องวางตัวให้ดูดี หนูเป็นธรรมชาติไปเลย เป็นยังไงก็บอกให้เพื่อนๆ รู้ สำหรับคุณครูเค้าก็จะมองเราเป็นเด็กนักเรียนธรรมดาคนหนึ่งไม่ได้มีสิทธิพิเศษไปกว่าเพื่อนคนอื่น"

เป็นดาราซะขนาดนี้ ไม่มีกิจกรรมโรงเรียนให้ทำก็แปลกล่ะ "หนูทำกิจกรรมโรงเรียนหลายอย่างมาก ตอนม.1 ต้องเป็นหัวหน้าห้อง เวลามีประกวดอะไรหนูก็ต้องไป ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ค่อยเก่งอะไรหรอกนะ(หัวเราะ) แต่ก็ต้องไป พวกงานโรงเรียนก็ต้องเป็นตัวแทนออกไป เพราะเค้าจะมองว่าหนูพอจะมีชื่อเสียง พอเป็นหน้าเป็นตาของโรงเรียนได้"

หัวหน้าห้องที่ชื่อโฟกัสดุมั้ย เจ้าหัวเราะคิก "จริงๆ หนูไม่อยากดุเพื่อนๆ หรอก เพราะในห้องก็เพื่อนกันทั้งนั้น อย่างเวลาครูให้จดชื่อคนคุยเสียงดัง หนูก็จะคอยบอกว่าเงียบๆ หน่อย แต่ถ้าคนที่คุยมากจริงๆ เราก็จะแอบดุบ้าง"

มีสถานภาพเป็นทั้งนักเรียนและนักแสดง การวางตัวของโฟกัสนั้น เจ้าตัวบอก พยายามทำให้ทุกคนมองในแง่ดี

แล้วก็ออกตัวว่า "แต่หนูไม่ได้สร้างภาพนะ คือเป็นในแบบของเราที่ไม่เกเร สนุกสนานได้ เล่นได้ แต่ไม่ควรทำอะไรออกมาแล้วดูน่าเกลียด เพราะยังไงก็มีคนที่รู้จักหนูมากกว่าที่หนูจะไปรู้จักเขา"

โฟกัสเริ่มเข้าวงการตอนอายุ 4 ขวบ โดยถ่ายโฆษณา แต่จุดเปลี่ยนที่เริ่มได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงก็เมื่อตอนอายุ 9 ขวบที่ได้เล่นหนังเรื่อง "แฟนฉัน"

"ตอนเป็น "น้อยหน่า" หนูชอบนะ สนุกดี เป็นช่วงที่ได้ไปไหนเยอะมาก โชคดีที่หนังรายได้ดีก็ได้ไปเที่ยวต่างประเทศ สนุกดีได้เจออะไรหลายอย่าง ชีวิตตอนนั้นแรกๆ สนุกที่มีคนรู้จัก แต่ไปๆ มาๆ คนเริ่มรู้จักเยอะขึ้น จากที่สนุกสนานก็เริ่มอ่อยลง จากนั้นก็เริ่มเฉยๆ แล้วก็มีอึดอัดบ้างนิดหน่อย แต่โชคดีที่หนูเป็นคนที่สนุกกับงาน ชอบที่จะแสดง เลยไม่เครียดอะไรมาก"

เข้าวงการมาแล้ว คำสอนของพ่อแม่ที่โฟกัสจำขึ้นใจคือเรื่องการมีมารยาท เจอผู้ใหญ่ควรยกมือไหว้ให้เป็นนิสัย และยังยึดแบบอย่างการใช้จ่ายอย่างประหยัด รู้จักเก็บออมตามแบบคุณแม่ โดยบอกเหตุผลว่า "หนูอยากเก็บตังค์เยอะๆ เอาไว้สร้างบ้านใหญ่ๆ สวยๆ สักหลัง หนูฝันว่าอยากมีบ้านที่อยู่กันได้หลายคน อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ มีปู่ย่าตายายพร้อมหน้า มันคงอบอุ่นดี"

ย้อนถามไถ่ถึงกลุ่มเพื่อนๆ "แฟนฉัน" โฟกัสกล่าวว่า "ก็ได้เจอกันเรื่อยๆ แต่ช่วงหลังไม่ค่อยจะคุยกันเท่าไร บางทีเค้าโทร.มาเราก็คุย ส่วนมากก็จะเป็นแน็ก(ชาลี ไตรรัตน์),เก็ต,แจ๊ค"

ดังอยู่ดีๆ แต่ดูเหมือนโฟกัสหายไป "จริงๆ หนูไม่ได้เงียบหายไปไหน เพียงแต่อาจจะไม่มีละครหรืองานออกมาทางทีวีเท่าไร จะรับงานโชว์ตัวมากกว่า อีกอย่างช่วงนั้นหนูหันมาทุ่มเทการเรียน คุณแม่ยังไม่อยากให้รับอะไรมาก อยากให้มุ่งเรื่องเรียน"

มีคนบอกว่าดาราที่เข้าวงการมาตอนเด็ก มักจะหายไปในช่วงโต "หนูไม่กลัวนะถ้าจะเป็นแบบนั้น ถ้ามันจะหายก็หายไป และถ้าโชคดีได้กลับมาอีกทีก็คงจะต้องตั้งใจแสดงให้ดีที่สุด หนูไม่ซีเรียสว่าจะต้องมีงานละครออกมาให้คนเห็นตลอดเวลา เพราะถ้ามีเยอะไปคนจะเบื่อหน้า หายๆ ไปบ้างจะได้คิดถึงกัน"

โตขึ้นอยากเป็นอะไร เจ้าตัวคิดคำนวณก่อนจะโพล่งออกมาว่า "อยากเป็นหลายอย่างมากเลย แต่ที่อยากเป็นมากๆ คือ "แอร์โฮสเตส" ไม่ใช่เพราะเป็นอาชีพที่ต้องสวยแล้วเราอยากเป็นนะ แต่หนูอยากไปเที่ยว อยากเป็นแอร์ที่บินไปประเทศญี่ปุ่น หนูชอบประเทศญี่ปุ่นมากๆ ตอนนี้หนูก็เรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ด้วย คิดว่าอาชีพนี้แหละที่พาหนูไปได้ คือได้ทำงานด้วยได้เที่ยวด้วย ชอบประเทศญี่ปุ่นเพราะเป็นประเทศที่มีหิมะและมีเกมเยอะดี เคยไปแล้วรู้สึกว่ามันสบายมากเลย ส่วนอาชีพอื่นๆ ที่คิดไว้ก็อยากเป็นครูสอนอนุบาล อยากเป็นหมอเด็ก อยากเป็นอะไรที่เกี่ยวกับเด็กๆ ส่วนนักแสดงถ้ามีโอกาสได้ทำก็ทำ แต่ไม่ได้ตั้งใจจะเอาเป็นอาชีพหลัก"

หลายคนมองว่าโฟกัสในวัย 13 ย่าง 14 (เกิด14ก.พ.2536) ยัง "เด็ก" แต่เจ้าตัวกลับมองตัวเองว่าโตแล้ว ด้วยเหตุผลง่ายๆ "อย่างแรกก็คือหนูสูงขึ้น และมันก็มีอะไรแบบที่ผู้หญิงเค้ามีกันแล้ว แต่ไม่ใช่เรื่องรักสวยรักงามนะ กระโปรงแม่ให้ใส่ก็ไม่ใส่ หนูชอบใส่กางเกง หนูเป็นคนที่ใส่กระโปรงแล้วนั่งไม่ได้เลย มันจะไม่ถนัด อยู่ในโรงเรียนนี่หนูไม่ซ่านะ จะออกแนวเรียบร้อยด้วยซ้ำ อาจารย์ก็บอกว่าน้องโฟกัสเรียบร้อย"

แต่คนส่วนมากมักมองว่าเด็กยุคใหม่โตวัย ซึ่งโฟกัสเห็นด้วย และแง้มว่า "เด็กยุคใหม่เรียนรู้อะไรเร็วกว่าเด็กสมัยก่อน นั่นเพราะทุกวันนี้มีเทคโนโลยีมากขึ้น คอมพิวเตอร์ก็มี เด็กๆ เดี๋ยวนี้เล่นเป็นหมด แล้วเดี๋ยวนี้เด็กเปิดเว็บไซต์เข้าไปดูอะไรได้เยอะแยะ มันก็เลยเป็นปัญหาตามมา แต่โดยส่วนตัวของหนูเวลาเข้าอินเตอร์เน็ตก็จะหาข้อมูลทำรายงาน เล่นเกม นอกนั้นก็ไม่ดูอะไรแล้ว"

สำหรับอนาคตในวงการบันเทิง โฟกัสบอกไม่ได้คาดหวัง ถ้าอนาคตยังมีงานแสดงอยู่ก็ทำ แต่ถ้าไม่ได้เป็นนักแสดงก็ไม่เป็นไร

วงการบันเทิงให้อะไรบ้าง "เยอะเลย ได้ความสนุกสนาน ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการแสดงหลายๆ ด้าน ได้รู้จักคนเยอะขึ้น และรู้จักการวางตัวมากขึ้น"

คิดยังไงที่คนมองว่าเด็กที่เข้าวงการแต่เด็กจะแก่แดด โฟกัสอึ้งก่อนกล่าวแบบจริงจัง "บางคนที่คิดแบบนั้นเพราะเค้าอาจจะไม่รู้จักตัวตนของนักแสดงเด็กคนนั้นจริงๆ เห็นจากการแสดง จากความกล้าแสดงออกก็คิดว่าจะต้องเกินเด็กบ้าง แก่แดดบ้าง ซึ่งบางทีด้วยหน้าที่การงานมันอาจจะต้องทำให้เป็นแบบนั้น หรือถ้าจะเป็นจริงๆ ก็อาจจะเป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น อยากให้ดูนิดนึง อย่าเหมารวม เพราะมันไม่ยุติธรรมกับคนที่เค้าไม่ได้เป็นค่ะ"

ถามเรื่องเบาๆ ดีกว่า ความรักของเด็กหญิงโฟกัสเป็นยังไงเอ่ย เจ้าตัวอมยิ้มก่อนเฉลย "ถ้าเป็นแบบกุ๊กกิ๊กผู้หญิงผู้ชายนี่ไม่มีเลย หนูชอบที่จะมีเพื่อน เป็นช่วงที่แบบว่าเล่นกับเพื่อนแล้วสนุก เลยไม่คิดอะไร ส่วนใครจะมาคิดอะไรกับหนูก็ช่างเค้า เพราะหนูเองเฉยๆ อยู่แล้ว มันยังไม่ถึงเวลาที่จะมาคิดเรื่องแบบนี้"

จะมีโอกาสได้เห็นโฟกัสใน "แฟนฉัน" ภาค 2 มั้ย "มีคนถามเยอะว่าอยากให้มีเหมือนกัน แต่หนูคิดว่าคงไม่มีแล้ว หนูเองไม่อยากให้มี อยากให้ "แฟนฉัน" เป็นความทรงจำที่ดีของคนดู เรื่องนี้เป็นหนังที่คนชอบกันเยอะ เค้าบอกว่าน่ารัก ก็ควรจะเก็บเอาไว้ในใจสักเรื่อง ถ้ามีภาค 2 แล้วมันไม่สนุก คนดูก็จะเอาไปเปรียบเทียบซึ่งมันไม่ดี"

"น้อยหน่า" คือความทรงจำ แต่ "ด.ญ.โฟกัส" ยังมีอนาคตในวงการให้เดินอีกไกล



"วันเด็ก"ของ"ด.ญ.โฟกัส"

"มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข" คำขวัญวันเด็กประจำปี 2550 จากท่านพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี

ถ้าถามว่าวันเด็กของ "ด.ญ.โฟกัส" เป็นอย่างไร เจ้าตัวตอบอย่างฉะฉาน "เป็นวันที่สนุกสนาน บางทีไปเล่นบ้านบอลคือบ้านที่เป่าลมใหญ่ๆ สนุกมาก เมื่อก่อนยังเล่นได้แต่ตอนนี้เข้าไม่ได้แล้ว ตัวมันโต มันเป็นภาพแห่งความทรงจำที่ดีนะคะ แหม...เด็กๆ ก็ตั้งตาคอยวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนม.ค.อยู่แล้ว"

มองว่าวันเด็กสำคัญกับเด็กมั้ย เจ้าตัวพยักหน้า "สำคัญค่ะ เป็นวันที่เด็กๆ ได้สนุกสุดๆ เราสามารถกระโดดโลดเต้นได้ แสดงออกได้เต็มที่ มีของเล่นมาแจก แล้วพอนึกถึงวันเด็กก็จะต้องนึกถึงคำขวัญวันเด็ก แต่หนูไม่เคยจำได้หรอกนะ จะท่องได้ก็เฉพาะตอนใกล้ๆ วันเด็กนั่นแหละ หลังจากนั้นก็ลืม" โฟกัสหัวเราะชอบใจ

ว่าแต่ "ด.ญ.โฟกัส" อยากเห็นอะไรในบ้านเมืองเรา เจ้าตัวรีบร้องขอ "อยากเห็นต้นไม้เยอะๆ ตามถนนก็มี บนตึกก็ช่วยกันปลูก ตึกเยอะต้นไม้ก็น่าจะเยอะตามตึกไปด้วย บ้านเมืองเราจะได้ไม่ร้อน เพราะเวลาที่ร้อนดูทุกคนจะเคร่งเครียดไปหมด"

"อย่างตอนนี้ที่บ้านเมืองเรามีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครทำ แต่ถ้าเค้าเป็นคนไทยก็อยากให้เค้าคิดสักหน่อย คนไทยด้วยกันไม่น่ามาทำกันเอง แต่ถ้าเป็นคนชาติอื่นก็อยากให้คิดว่าถ้าเป็นประเทศของเค้าโดนแบบนี้จะเป็นยังไง หนูอยากจะบอกว่าเรื่องความไม่สงบที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวเด็กๆ อย่างที่ผู้ใหญ่เข้าใจ มันมีผลกระทบต่อความรู้สึกของเด็กๆ นะ อย่างช่วงวันปีใหม่ที่ผ่านมามีระเบิด เราก็ต้องคอยระวัง ไปโรงเรียนก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรรึเปล่า เดินผ่านถังขยะก็กลัว มันกังวลไปหมด ปัญหาที่เกิดมันไม่ใช่เรื่องของผู้ใหญ่อย่างเดียว แล้วนี่ลองมาคิดดูว่างานวันเด็กปีนี้หลายที่งดไปเลย แล้วปีนึงมีวันเด็กวันเดียว เค้าก็ตั้งตาคอยจะไปสนุกสนาน ไม่น่าเชื่อว่าปีนี้จะเป็นวันเด็กที่เด็กๆ จะต้องหงอย เศร้าเสียใจ ถ้าไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นเด็กๆ คงมีความสุขมากกว่านี้เยอะเลย"

อยากขออะไรกับนายกฯ "ทำยังไงก็ได้ไม่ให้รถติด อีกอย่างคือเรื่องการศึกษาที่อยากให้สนับสนุนมากๆ เพราะถ้าเด็กไม่มีความรู้เลยโตไปก็ทำมาหากินอะไรไม่ได้ เรื่องปัญหาต่างๆ ที่วุ่นวายก็อยากให้ทุกคนช่วยกัน อีกอย่างคืออยากให้ขอทานหายไป เห็นแล้วสงสาร อยากช่วยให้เค้าทำมาหากินได้ หรือไม่ก็สร้างบ้านพักคนพิการให้เค้ามาอยู่ ไม่อยากให้นั่งขอทานตามข้างถนน หนูสงสารเค้าค่ะ"

และนี่คือหนึ่งเสียงจากเด็ก ที่ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่จะลองหันมาฟังกันบ้างมั้ย

อีตอแหลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล Twisted Evil Twisted Evil Twisted Evil Twisted Evil กูจะบอกอะไรให้ มึงกล้าโยนรางวัลอัปยศที่ไอ้คนให้มันก่อปัญหาทุกอย่างจนทุกวันนี้จนมันเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนอยู่ ทิ้งล้างเสนียดตัวมึงรึเปล่าหรอก หน็อยทำมาพูดสมานฉันท์ อีจอมสมานฉะ afro
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
E-FIคนเริงเมือง

E-FIคนเริงเมือง


เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 58
Registration date : 27/12/2006

อีดอกกกตอแหลลลลลแม้กระทั่งวันเด็ก Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: อีดอกกกตอแหลลลลลแม้กระทั่งวันเด็ก   อีดอกกกตอแหลลลลลแม้กระทั่งวันเด็ก Icon_minitimeSat Jan 27, 2007 3:34 am

เธญเน‰เธฒเธ‡เธญเธดเธ‡เธˆเธฒเธ :
อย่างตอนนี้ที่บ้านเมืองเรามีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครทำ แต่ถ้าเค้าเป็นคนไทยก็อยากให้เค้าคิดสักหน่อย คนไทยด้วยกันไม่น่ามาทำกันเอง แต่ถ้าเป็นคนชาติอื่นก็อยากให้คิดว่าถ้าเป็นประเทศของเค้าโดนแบบนี้จะเป็นยังไง
affraid affraid affraid affraid affraid affraid affraid affraid
อีดอกกกตอแหลลลลลแม้กระทั่งวันเด็ก Hehehe
afro afro afro afro afro afro afro afro afro afro

ยังจำรูปนี้ได้มั้ย?........... Suspect



ทำไมตอนมึงรับไอ้"รางวัลเยาวชนดีเด่นอัปยศ"จาก ไอ้คนที่มันทำลายบ้านเมืองอยู่ทุกวันนี้ ทำไมมึง ยิ้มไป รับไป ล่ะ หา...
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
 
อีดอกกกตอแหลลลลลแม้กระทั่งวันเด็ก
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ 
เธซเธ™เน‰เธฒ 1 เธˆเธฒเธ 1

Permissions in this forum:เธ„เธธเธ“เน„เธกเนˆเธชเธฒเธกเธฒเธฃเธ–เธžเธดเธกเธžเนŒเธ•เธญเธš
hate dara :: ป่าวประกาศ-
เน„เธ›เธ—เธตเนˆ: