hate dara
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
hate dara

ถ, , , , , ้, , , , , า, , , , , ค, , , , , ุ, , , , , ณ, , , , , เ, , , , , ก, , , , , ล, , , , , ี, , , , , ย, , , , , ด, , , , , ด, , , , , า, , , , , ร, , , , , า, , , , ,
 
เธšเน‰เธฒเธ™เธšเน‰เธฒเธ™  เธ„เน‰เธ™เธซเธฒเธ„เน‰เธ™เธซเธฒ  Latest imagesLatest images  เธชเธกเธฑเธ„เธฃเธชเธกเธฒเธŠเธดเธ(Register)เธชเธกเธฑเธ„เธฃเธชเธกเธฒเธŠเธดเธ(Register)  เน€เธ‚เน‰เธฒเธชเธนเนˆเธฃเธฐเธšเธš(Log in)  

 

 ถอดรหัส ไซด์ไลน์เมืองไทยชีวิตที่น่าเรียนรู้

Go down 
เธœเธนเน‰เธ•เธฑเน‰เธ‡เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก
Admin
Admin



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 58
Registration date : 24/12/2006

ถอดรหัส ไซด์ไลน์เมืองไทยชีวิตที่น่าเรียนรู้ Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: ถอดรหัส ไซด์ไลน์เมืองไทยชีวิตที่น่าเรียนรู้   ถอดรหัส ไซด์ไลน์เมืองไทยชีวิตที่น่าเรียนรู้ Icon_minitimeSun Dec 24, 2006 8:45 am

ไซด์ไลน์ (Sideline)ไม่ใช่คำแปลกใหม่สำหรับสังคมไทยในยุคนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะมันมีความหมายถึง สาวน้อยที่นิยมขายเนื้อชั่วคราวเพื่อช่วยให้ชีวิตของเธอดำรงอยู่ได้ในสังคมนี้

และแน่นอนคำว่าไซด์ไลน์กลายเป็นคำนิยมของคนจำนวนมากขึ้นมา เพราะ รูปร่างหน้าตาที่ดูสดใส ราวกับเป็นน้องสาวของเราเอง ร้อยทั้งร้อยดูยังไงก็ไม่เชื่อว่าเธอทำงานประเภทนี้

หลายคนประนามว่าเป็นเรื่องไม่ดี หลายคนบอกว่าพวกเธอเป็นผลิตผลของสังคมที่เสื่อม หรือเป็นมรดกของการพัฒนาที่ไร้ระเบียบและมั่นคง หลายคนบอกว่าพวกเธอกำลังก่อปัญหาให้สังคม ฯลฯ แต่ละสำนัก แต่ละทฤษฏีต่างกล่าวถึงพวกเธอต่างๆกันไป

วันนี้ MGR Online เองก็จะมากล่าวถึงเธอบ้าง...แต่ไม่ใช่ให้เรากล่าวอย่างเดียว แต่เป็นพวกเธอช่วยเปิดปากเผยที่มาที่ไป...ในบทความชุดที่ชื่อว่า “ทำไงถึงจะมาเป็นไซด์ไลน์(พันธ์แท้) ” เพื่อให้คนรู้จักพวกเธอ รู้ถึงที่มาที่ไป แนวคิดที่บางทีอาจจะทำให้คนในสังคมนี้เข้าใจพวกเธอมากกว่าเดิม

ก่อนหน้านี้สองสัปดาห์เราติดต่อกับเธอผ่านแขกคนหนึ่ง ว่าจะขอข้อมูลเพื่อมาเขียน “ทำไงถึงจะมาเป็นไซด์ไลน์(พันธ์แท้) ”ให้กับพวกเรา ตอนแรกสาวน้อยอิดออด เพราะกลัวว่าความลับระหว่างเธอกับเพื่อนอาจจะเป็นอันตรายกับเธอภายหลัง

อย่างไรก็ตาม เรายืนยันว่าก่อนที่เรื่องราวเหล่านี้จะปรากฏต่อสาธารณะ เธอจะขอตรวจสอบเนื้อหาก่อนก็ได้

เธอจึงรับปากเรา แต่มีข้อแม้อย่างเดียว นั่นคือ ห้ามถ่ายภาพและห้ามมีการบันทึกเสียงอย่างเด็ดขาด

ค่ำวันนั้นในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านสวนจตุจักร สาวน้อยที่เรารอคอยก็เดินทางมาถึง...แต่เธอไม่ได้มาคนเดียว กลับมาพร้อมกับเพื่อนๆหน้าดีๆและเรียบร้อยอีกสี่คน

ในที่สุดบทสนทนาที่คาดว่าจะมีแค่หนึ่งต่อหนึ่งก็กลายเป็นห้ารุมหนึ่งอย่างเหลือเชื่อ

**********************

ในห้าคนนี้มีสองคนเรียนหนังสือในสถาบันเอกชนเดียวกัน อีกหนึ่งคนเรียนอยู่สถาบันรัฐ อีกคนกำลังเรียนอยู่ปีสุดท้ายของระดับมัธยมปลาย ส่วนคนที่เรานัดคนแรกเรียนคนละสถาบันและมีอายุมากกว่าทุกคน เพราะเธอเหลืออีกหนึ่งปีก็จะเรียนจบระดับปริญญาตรีแล้ว

พวกเธอยกมือไหว้ทักทายอย่างอ่อนน้อม เราต้องกระซิบถามสาวน้อยน้ำฝน ซึ่งเป็นคนแรกที่เราติดต่อว่า ทำไมถึงพามาเยอะขนาดนี้ เธอตอบว่าก็พามาให้พี่รู้จักเผื่อสนใจที่จะพาน้องเขาไปต่อ จะได้เลือกๆแล้วก็ไปอย่างที่เราต้องการ

“แซนด์วิชก็ได้นะพี่ (เธอหัวเราะ)” เราเองก็หัวเราะ เพราะมันหมายถึงการมีเพศสัมพันธ์แบบสองต่อหนึ่งอันเป็นที่ปรารถนาของชายทั้งปวง แต่เรายืนยันว่า ยังก่อน เพราะ ภาระกิจของเราคือการสนทนา ไม่ใช่การติดต่อกันทางกายภาพบนเตียง

เราสั่งอาหารมาชุดใหญ่เพื่อให้พวกเธอได้กิน ผมกระซิบบอกเธอว่า เดี๋ยวจะให้ค่าเดินทางที่เหลือคนละ 500 น่าจะพอ ส่วนตัวน้ำฝนเราจะจ่ายให้ตามราคาที่เธอเคยรับแขก ...น้ำฝนบอกว่าไม่มีปัญหา

ระหว่างที่พวกเธอทานกันอย่างเอร็ดอร่อยพร้อมกับซี๊ดปากด้วยความเผ็ด เราเริ่มสนทนาถึงเหตุและปัจจัยที่ทำให้พวกเธอต้องมาทำงานนี้กัน สาวน้อยคนหนึ่งบอกว่า เพราะ อุบัติเหตุ ส่วนอีกคนตอบว่า เพราะ หนูหนีออกจากบ้าน เมื่อโลกนี้ต้องการใช้เงินเพื่อการดำรงอยู่ เพราะฉะนั้นมันคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะใช้ปราการด่านสุดท้ายเพื่อการดำรงชีวิต

“สรุปก็คือ เรื่องเศรษฐกิจเป็นเหตุ” ผมสรุป พวกเธอพยักหน้ารับ

ผมถามน้ำฝนว่าแล้วเรามีเด็กๆในสังกัดได้อย่างไร เธอตอบอย่างฉะฉานว่า จริงๆด้วยความบริสุทธิ์ใจ ที่มาอยู่ตรงนี้ก็เพราะต้องการจะช่วยเพื่อนๆและน้องๆเหล่านี้

“ ไอ้อาการของคนที่ไม่มีเงินนี่ มันสังเกตุกันไม่ยากหรอกคะพี่ หนูดูหน้าน้องเนี่ยหนูก็รู้แล้วว่า น้องเขากำลังเดือดร้อน (เธอชี้ไปที่เด็กคนหนึ่ง) อย่างน้องเขาต้องการค่าเทอม อย่างของมหาลัยหนูเนี่ยประมาณ 4 หมื่น น้องเขาไม่มี แต่ก็ไม่อยากจะออกก็ต้องช่วยกัน”

“ หนูก็ถามว่าอยากจะได้ความช่วยเหลือไหม ถ้าเอาพี่ก็จะหาแขกให้เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนไปก่อน”

เราหันไปถามเด็กคนที่กำลังเป็นหัวข้อสนทนา น้องเอ (นามสมมุติ) บอกว่าก็ต้องรับเพราะไม่มีทางเลือกแล้ว

“ คือถ้าหาได้ง่ายๆก็หาไปแล้ว แต่ทำยังไงมันก็ไม่ได้ ทางบ้านก็ไม่มีให้ เราเองก็ไม่อยากจะออก เพราะเพื่อนเราอยู่ที่นี่เยอะ ก็เลยตกลงทำ แต่หนูก็ต้องบอกแม่นะว่ามาเป็นเซลส์หลังเลิกเรียน ไม่งั้นแม่เอาตาย...พอทำครั้งแรกก็ได้เงินมา ดีใจก็ดีใจแต่ก็ร้องไห้ไปหลายวันเลยเพราะทำใจไม่ได้ ไม่กี่วันพี่ฝนก็โทรมาถามว่า แขกคนเดิมเรียกอีกจะรับหรือไม่รับ ถ้าไม่รับก็ได้ เราก็มานั่งคิดว่า ครั้งแรกได้มายังไม่พอค่าเทอม ก็คิดว่า ทำจนกระทั่งพอค่าเทอมแล้วหยุด ก็เลยยอมไปอีก”

“แล้วก็เลยทำมาเรื่อยๆ” เธอพูดพร้อมดูดเป็ปซี่น้ำแข็งที่เราสั่งมาให้ “เพราะไหนๆมันก็เอาเรื่องที่เสียไปกลับมาไม่ได้แล้ว ทีนี้ก็เลยรับแขกมาเรื่อย แล้วแต่ว่าพี่เขาจะหามาให้หรือเปล่า”

“ ก็แบบเนี้ยแหล่ะพี่” น้ำฝนบอกขึ้นมา “พออีกวันก็มีเด็กมาบอกหนูว่า เขากำลังร้อนเงินพี่ช่วยหน่อยได้ไหม ไอ้เราเห็นว่าน้องเขาดีก็เลยช่วยติดต่อให้ ก็ติดต่อกันไปติดต่อกันมา รู้จักกันหมด หนูเองพอมีแขกก็ส่งต่อให้เด็กพวกนี้ เราก็พาไปส่งแล้วก็กลับบ้าน แต่ถ้าแขกเขาชอบเรามากกว่า เราก็ไปกับแขก น้องๆก็รับค่ารถกลับบ้านไป”

ฝนบอกกับว่าว่า ต้นกำเหนิดของเธอก็คล้ายๆกับเด็กพวกนี้ เธอเองตอบไม่ได้ว่า ใครเป็นผู้จัดการหาไซด์ไลน์แบบนี้คนแรก เพราะตอนเธอเองทำครั้งแรกก็อาศัยเพื่อนบอกต่อให้ไปพบกับเอเย่นต์อีกทีหนึ่งเหมือนกัน ซึ่งนั่นเป็นเหตุการณ์เมื่อสามปีที่แล้ว

“ หนูก็ไปพบพี่เอเย่นต์เขา เขาก็จดโทรศัพท์เราไว้ แล้วก็บอกว่าจะติดต่อกลับมาสองสามวันพี่คนนั้นก็บอกว่า มีแขกเขาสนใจ ตอนนั้นก็ถามเราว่า ยังซิงอยู่หรือเปล่า เราก็บอกว่าเคยนอนกับแฟนมาแค่ 2 ครั้ง เขาก็บอกว่างั้นเดี๋ยวพี่หักค่ายาด้วย ก่อนจะนัดเจอกันเขาก็ให้เราเอา “ยาซิง”ใส่เข้าไปในของๆเรา ซึ่งเจ็บมาก”

จากนั้นเธอก็รับงานเรื่อยมา อย่างไรก็ตามเมื่อรับไปได้พักหนึ่ง เมื่อมีแขกรู้จักมากขึ้น การบอกต่อๆกันก็ทำให้เธอไม่ต้องรอรับงานจากเอเย่นต์อีกต่อไป

“ พี่คนหนึ่งเป็นเจ้าของตึกแถวรัชดานี่เอง เขาโทรมาหาเรา บอกฝนว่าช่วยหาเด็กให้พี่หน่อยได้ไหม เพราะ เขามีเพื่อนมาด้วยสี่คน เราก็เลยลองดูโทรไปบอกเพื่อนที่ชวนเราครั้งแรกนั่นแหล่ะ พักหนึ่งเพื่อนก็โทรมาบอกขอค่าเบอร์โทรศัพท์ 500 นะ เราก็บอกโอเค มันก็ว่าเดี๋ยวจะมีเด็กโทรไปหา คุยกันเองแล้วกัน...พักหนึ่งก็มีเด็กโทรมา เราก็บอกราคาไป คือฝนไม่ได้อะไรเลยนะพี่ เด็กเขาก็เอาเราก็เลยพาไป แขกก็ติดใจหลังๆเขาก็เลยโทรมากันเรื่อยๆ เราก็หาเด็กได้เรื่อยๆเหมือนกัน เพราะ มีคนเดือดร้อนอยู่เยอะ ทีนี้หนูก็ไปเล็งเอาเองเลย ไปดูตามคณะต่างๆเห็นคนไหนหน้าตาหมองๆเราก็เข้าไปถาม ถ้าเขารับได้เราก็ขอเบอร์ไว้ แล้วถ้ามีออร์เดอร์มาเราก็ส่งไปตามต้องการ”

ในเรื่องของมีเอเยนต์มาคุมอีกทีนั้น เธอบอกว่า ระบบตบตีหรือหลอกลวงกันมาเพื่อเป็นไซด์ไลน์นั้นไม่มีหรอก ส่วนใหญ่ทำกันด้วยความเต็มใจทั้งนั้น

“ แต่ถ้าเลือกได้ ถามไปเหอะ ก็ไม่มีใครอยากจะทำตั้งแต่เริ่มต้นหรอก โอเค เรื่องว่าเราเคยเสียตัวมาก่อนมันก็ใช่แหล่ะนะพี่ แต่ว่าการที่เราไปนอนกับใครแลกกับเงินเนี่ยมันแตกต่างกัน คือมันทำใจไม่ได้หรอก อย่างหนูเนี่ย ตอนทำงานครั้งแรกก็ร้องไห้เหมือนกัน ยิ่งเจอแขกที่เขาเห็นว่าเราเป็นเด็กจริง มันก็ยิ่งทำแรงๆ แต่ได้มาเกือบหมื่นกับครั้งแรก หนูว่าก็คุ้ม...แต่พอนึกอีกทีก็ไม่คุ้มแล้ว เพราะ ได้มาหมื่นหก เอเยนต์เอาไปแปดพัน ตอนนั้นเราก็ไม่ประสีประสา นึกว่าเขามาช่วยเราก็เลยแบ่งให้ไป ถ้าเป็นตอนนี้ก็ไม่ยอมหรอก ต่อมาเรารับแขกทุกครั้งก็เลยแจกเบอร์กันไปเอง ก็เล่าให้เขาฟังว่าติดต่อโดยตรงเลยก็ได้ จะได้ไม่โดนหักค่าตัว”

แล้วอย่างนี้ไม่มีปัญหาเรื่องเอเย่นต์เหรอ เพราะเราไปแย่งแขกเขานะเนี่ย ?

“ ไม่หรอกพี่ เพราะ ไม่ได้มีเราคนเดียวที่ดูแลน้องๆเหล่านี้ เพราะ ที่คณะหนูยังมีอีกหลายคน เขามีช่องทางในการหาเด็กของเขาเองอยู่แล้ว ถึงไม่มีหนูพวกเขาก็อยู่ได้ เพราะ เดี๋ยวนี้เด็กหันมาทำตรงนี้เยอะแยะ ไอ้เรื่องจะมาตบตีทีหลังไม่มี..ถ้าจะมีก็เรื่องเดียวคือ ไปแล้วโดนแขกเบี้ยว ซึ่งอันนี้เขาต้องรับผิดชอบ เขาต้องเป็นคนจ่ายค่าตัวแทนเรา”

ถ้าอย่างงั้นถ้าอยากจะเป็นไซด์ไลน์ต้องทำยังไงบ้าง?

“ (หัวเราะ) พี่พูดงี้พวกหนูนอนไม่หลับเลยน่ะ... เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากเป็นหรอก ถ้ามีทางอื่นก็ทำไปแล้ว แต่ก็อย่างว่า ถ้าอยากเป็นไซด์ไลน์จริงๆ อย่างแรกก็ต้องทำหน้าเศร้าให้ผิดสังเกตุเข้าไว้ (หัวเราะ) ถ้าหน้าตาสวย รูปร่างดี มีคุณสมบัติเดี๋ยวจะมีคนติดต่อเข้าไปเอง”
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://hatedara.niceboard.com
Admin
Admin



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 58
Registration date : 24/12/2006

ถอดรหัส ไซด์ไลน์เมืองไทยชีวิตที่น่าเรียนรู้ Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: ถอดรหัส ไซด์ไลน์เมืองไทยชีวิตที่น่าเรียนรู้   ถอดรหัส ไซด์ไลน์เมืองไทยชีวิตที่น่าเรียนรู้ Icon_minitimeSun Dec 24, 2006 8:46 am

แล้วจากนั้นละ ?
“ อย่างที่สองก็คือ อย่าทำตัวกวนมาก...เป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย แต่ต้องคุยเป็น คุยน่ารักๆได้ พวกที่แบบเปรี้ยวมากๆนี่เป็นไม่ได้เลยนะพี่ พวกนั้นอาจจะต้องไปนั่งข้างอ่างแทน ที่ลูกค้าชอบก็คือ พวกที่คุยกับเขาได้ทุกเรื่อง ยิ่งทำให้เขาหัวเราะได้ยิ่งดี แขกติดมากคะ”

“อย่างที่สามก็คือ หาที่อยู่ให้มันใกล้ๆ กันไว้ ยิ่งอยู่ในย่านที่จะไปไหนมาไหนได้สะดวกจะดีมาก บางคนจะเป็นไซด์ไลน์ แต่บ้านอยู่นนท์แบบนี้ก็ไม่ไหว หรือยังอยู่กับพ่อแม่ก็ไม่ได้ อยู่กับแฟนก็ไม่ได้เด็ดขาด”

เราถามเธอว่า อ้าวแล้วแบบนี้สมมุติว่า แขกอยู่ไกลๆเราจะรับสั่งด้วยหรือเปล่า เธอกล่าวว่ารับ เพราะ ถ้าแขกอยู่แถวนั้น เราสามารถให้เพื่อนของเธอจัดหาเด็กให้กับคนแถวๆ นั้นได้ ส่วนค่าเหนื่อยของเธอจะได้หรือไม่ อันนั้นแล้วแต่ความเขี้ยวของเพื่อน

“ อย่างน้องคนนี้ไม่ได้อยู่มหาลัยหนู (เธอชี้มือไปทางเด็กสาวอีกคน) อย่างน้องบีเนี่ย เมื่อคืนมีแขกเราขอมาทางราษฎร์บูรณะ เราก็โทรไปหาเพื่อนๆ คือเขาเรียนอยู่แถวนั้น หนูก็เลยให้เขาไปแทน วันนี้น้องเขาก็เอาค่าโทรศัพท์มาให้หนูๆก็เลยพามาเผื่อให้พี่ดู”

สรุปว่า “เพื่อน” ในที่นี้แปลได้ว่า “เครือข่าย” ?
“ จะเรียกอย่างงั้นก็ได้” เธอตอบ

เราหันไปถามสาวน้อยบีผู้มีความสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ว่าในเครือข่ายที่เธอสังกัดอยู่มีเด็กเยอะไหม บีบอกว่า เรื่องเครือข่ายนี่นับกันไม่ได้ แต่ยืนยันว่ามีเยอะมาก บางทีแขกเรียกไป เห็นปุ๊ป อ้าวคนนี้อยู่มหาลัยชั้นนี่ เราก็หัวเราะเลย เพราะ สุดท้ายก็ทำกันทั้งนั้น

น้ำฝนบอกเสริมว่า ตามหอพักหญิงเนี่ยแหล่ะตัวดี

“หอหนูทำเกือบทุกห้องแหล่ะ ถ้าโทรศัพท์ถูกตัดเราก็เดินเคาะเรียกเลย ส่วนใหญ่ไซด์ไลน์นี่ รีบกลับบ้านคะพี่ เรียนเสร็จก็มานอนรอ ไอ้ที่กลับบ้านดึกๆน่ะไม่มีแล้ว”

“แสดงว่าสมัยก่อนกลับดึกเหรอ? เราถาม

เธอยิ้มบอกว่า ส่วนใหญ่กลับดึกๆ ก็เพราะไปเที่ยวกันน่ะ

“ ปัญหาที่สำคัญที่สุดของไซด์ไลน์เมื่อเริ่มทำงานก็คือ ความรู้สึกที่ว่าเงินมาได้ง่ายๆก็เลยจ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย พี่เชื่อมั้ยตอนหนูทำงานช่วงแรกๆ เดือนหนึ่งได้ตั้งหกหมื่น รับแขกอาทิตย์ละสามสี่วัน เฉลี่ยคนละ 3,500 บางคนเขาใจดีก็ทิปให้ หักค่ารถ ค่าโทรศัพท์ให้เพื่อนหนูจะได้ประมาณ 3 พันต่อครั้ง บางคืนมีแขกสองที่รับเกินเคยได้สูงสุดเดือนละ 8 หมื่น แต่เงินเก็บแทบไม่มีเลย เพราะ หนูเอาเงินไปซื้อของหมด”
“ พอไม่ซื้อของ เราก็เที่ยวซี ตอนแรกๆ ก็เป็นเหมือนกันหมดแหล่ะพี่คือไปเที่ยว หมดไปกับค่าเที่ยวเยอะ หนูก็กินเหล้า เพื่อนก็กิน บางทีเราก็เลี้ยงผู้ชาย เราก็กรี๊ดคนหล่อ พวกนี้เจ้าชู้ เราก็รู้สันดานเขา แต่ทำไงได้ ตอนนั้นมันมีเงินอยู่ เราก็ใช้ไปเรื่อย ก็ยังมานึกเสียดายนะว่าถ้าเราเก็บเงินก้อนไว้ เดี๋ยวนี้เป็นเศรษฐีไปแล้ว”

******************************

เธอบอกว่า แต่ก็มีนักศึกษาจำนวนมากเหมือนกันที่ยอมไปนั่งข้างตู้ แต่นั่นคือเหตุการณ์เมื่อปีสองปีที่แล้ว เพราะ ไปอยู่ข้างตู้แล้วไม่คุ้ม เพราะถูกหักมาก อีกอย่างเดี่ยวนี้ทางออกในการหาเงินมันไม่ยากเหมือนสมัยก่อน

“ ส่วนใหญ่ไซด์ไลน์นอกตู้ราคาก็ 2,700-3,000 พวกหนูได้แค่ 1,500 เอง แล้วเราก็ต้องเสียให้พวกพนักงานด้วยอีก คืนหนึ่งถึงแขกเยอะนะพี่อย่างรับ 4 ประตู ก็ได้แค่หกพัน แล้วโทรมมาก ดูเหมือนเงินเยอะแต่มันไม่เยอะ ต้องจ่ายให้คนเชียร์แขกอีกพัน เหลือแค่ 5000 พี่ว่ามันคุ้มมั้ยละ ”

เคยมีการหักภาษีกันบ้างไหม ?

เธอหัวเราะ พร้อมกับส่ายหัวว่า ไม่เคยเสีย แต่เจ้าของตู้เขาอาจจะเสียก็ได้ อย่างสมัยก่อนนักศึกษาไปนั่งกันเยอะ อย่างพลาซ่าหรือฮอน(ฮอนโนลูลู) แต่เดี๋ยวนี้น้อยลง เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะไปหาเด็กที่อื่นมานั่งแทนหรือเปล่า แต่ในแวดวงมหาวิทยาลัยของเธอหรือเครือข่ายนั้นพวกนี้ไม่ได้ไปนั่งแล้ว

“ แบบว่าเดี๋ยวนี้คนทำเขาทำกันเยอะ ไม่ใช่ว่าเด็กมหาวิทยาลัยหนูทำที่เดียวซะเมื่อไหร่ อย่างย่านลาดพร้าวนั่นก็เพื่อนหนู แถววิภาวดีพี่เห็นมั้ยละกี่สถาบัน พวกนั้นเพื่อนๆ เราหมด อย่างเด็กที่ให้พี่ดูเมื่อกี้เพิ่งปีหนึ่ง เพิ่งเข้าสถาบันได้ เพราะฉะนั้น เขาทำกันทั่วไปแหล่ะ”

“ คือเราก็ให้บริการเหมือนที่เขาให้ได้นะพี่ คืออาบน้ำให้แขกเหมือนกัน เรายังสาวๆสวยๆเหมือนกัน ทำทุกอย่างได้เหมือนกัน หนูถามว่าพี่จะยังไปเที่ยวอ่างอีกเหรอ”

“ แถมถ้าหนูถูกใจแขก ราคาก็ต่อรองได้ด้วยนะอย่างพี่เนี่ย (เธอหัวเราะ)”

เราอ้างว่า ที่ตู้มีให้เลือกหลายคน เธอก็ยืนยันเหมือนกันว่า เพื่อนๆและน้องๆของเธอก็มีในสังกัดเยอะเหมือนกัน

“พี่อยากดูรูปเหรอ นี่ไง (เธอหยิบโทรศัพท์โนเกียรุ่นถ่ายรูปได้ให้เราดู) โทรศัพท์พี่รับรูปได้ไหม? (เธอถาม) ถ้ารับรูปได้หนูก็จะส่งไปให้ดูเลยว่า ชอบคนไหนหนูจะไปจัดการหามาให้ หรือถ้าพี่อยากจะเลือกหนูก็ส่งให้ดูหมดเลยก็ได้”
ไม่กลัวว่าแขกจะเอารูปพวกนี้ไปหาประโยชน์ต่อเหรอ?

“ กลัวเหมือนกัน แต่หนูให้แบบนี้กับเฉพาะคนรู้จัก หรือแขกที่เรามั่นใจแล้วว่านิสัยดี อีกอย่างก็คือ หนูเลือกแขกเฉพาะที่มีอายุหน่อยคือ 30 ขึ้นไป แขกพวกนี้ชอบมาก แล้วก็ไม่มีพิษมีภัย แล้วเขาก็ใช้วิธีการบอกต่อกันเรื่อยๆ เราก็รู้จักลูกค้ามากขึ้น”

เรื่องน่าทึ่งอีกอย่างที่เธอบอกเราก็คือ ในวงการนี้ไม่มีคำว่า...เด็กขาด ไม่ว่าจะมีออร์เดอร์มาเยอะแค่ไหนก็ตามเธอสามารถอาศัยเครือข่ายเพื่อนๆของเธอจัดหาได้อย่างสบายๆในเวลาที่รวดเร็วมาก

“ เคยพี่ครั้งหนึ่ง...เพื่อนบอกว่า อีกสองชั่วโมงมีงานใหญ่มาก เป็นงานประชุมพรรคการเมืองที่โรงแรมหนึ่ง เขาว่าจะเอาคนตั้ง 30 คน เราก็ว่าจะหาที่ไหนดี เพราะอย่างของหนูเองหาได้ก็ 10 คนอย่างเก่ง หนูก็โทรหาเพื่อนพวกนี้โทรไปนะ เราเสียเงินด้วย มันว่าคิดค่าโทร 500 บาท เรายืนยันกับเขาว่างานนี้ดี จ่ายดี มีทิปหนัก ก็บอกว่าจะเอาเด็กๆ ก็บอกกันเป็นเครือข่ายเผลอแพล็บเดียว 34 คน เรียกว่าปุ๊ปปั๊ปได้เลย”

“ (หัวเราะ) พอไปเราก็ตกใจ เพราะ ไอ้พวกที่อยู่ในเครือข่ายอื่นก็เพื่อนเรา หรือ เด็กในมหาลัยเราทั้งนั้น มองหน้ากันใหญ่ แต่ห้ามพูดกัน ก็ตลกดีไปอีกแบบ เราก็ถึงบางอ้อเลยว่า ที่แท้ก็ทำเหมือนกันหมด เจออย่างนี้บ่อยๆ ก็ดี เพราะ มันยิ่งทำให้เราใหญ่กว่าเดิม เราก็ขอเบอร์ไว้หมด แลกเบอร์กัน ทีหลังเรียกมาเราได้จ่ายงานให้คนอื่นไปทำต่อได้ เราก็พาเพื่อนไปส่งเท่านั้นเอง แต่เราก็ไว้ใจหมดไม่ได้อย่างบางคนไม่เคยเห็นหน้า หรือ พูดมากๆเนี่ยหนูก็ไม่รับนะ กลัวเหมือนกัน ”
ระหว่างนักการเมือง คนดัง คนธรรมดา หรือ ดารา เธอชอบพวกไหนมากกว่ากัน ?

สาวน้อยหน้าหวานยิ้มนึกอยู่ครู่เดียว ก่อนบอกแยกแยะให้ฟังว่า

“ นักการเมืองดีที่สุด เพราะ จ่ายเยอะ แต่แย่ที่เราต้องรอนาน คือกว่าเขาจะคุยธุระกันเสร็จก็ต้องรอกินโต๊ะจีน กินเสร็จดื่มต่อ บางทีเราไปนั่งรอนานมาก แต่พวกนี้จ่ายดี ราคาประมาณ 16 ใบ (หมายถึง 16,000 บาท) บางทีขึ้นห้องกันแล้วเขาก็ไม่เอา แค่ให้บีบๆ นวดๆ แล้วก็ใช้มือช่วยให้ออกก็เสร็จแล้ว เขาก็ให้เราป้อนน้ำ ป้อนน้ำชา จุดบุหรี่ให้”

“คนดังนี่ลำบากหน่อย พวกนี้จ่ายไม่เยอะเท่านักการเมือง แต่พวกหนูลำบาก เพราะพอเห็นก็รู้จัก เราก็เกรงใจแล้วก็เกร็งน่ะพี่ จะบริการก็ไม่รู้จะทำยังไง แล้วคนพวกนี้ก็ไม่ค่อยพูดด้วย นอนอย่างเดียว เราก็ทำได้เท่าที่เราทำ

“ ดารานี่แรกๆ หนูก็กรี๊ด ยังเคยเลยบอกว่า นอนฟรีๆก็ได้ แต่ตอนหลังถึงรู้ว่าพวกนี้แย่ที่สุด...”

“ทำไมถึงแย่ ?” เราถามสวนขึ้นมา

“ พวกนี้จ่ายน้อย...แล้วก็เรื่องมาก เอ้าพี่คิดดูสิ อย่างคนหนึ่งเป็นทั้งดารานักร้อง หน้าตาก็ดีนะพี่ แต่เจอหน้าเราขึ้นกันเรียบร้อย บอกว่าเอาไป 1600 พอ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นเรายืนยันว่า 2500 พอนอนเสร็จบอกว่าเอาให้ได้แค่นี้ ถามเราว่าไม่ดีใจเหรอที่ได้นอนกับผม มันพูดไม่ดีเลย ...ดูไอ้พวกนี้ซิ เราก็พูดไม่ออกเลย หลังๆพอเป็นดารารีเควสต์มา เราก็เลยส่งต่อเลย เพราะ ไม่งั้นไม่ไหว ขี้เกียจทะเลาะกับคน เรากังวลแทนเด็กๆ เราด้วย เพราะ ถ้าแขกเลว เด็กมันจะมาด่าเราได้”

“ ที่เลวกว่านั้นก็มี เป็นพวกโรคจิตพี่ขึ้นกับเราอยู่ เผลอแพล็บเดียวเรียกเพื่อนมาสวิง แล้วก็วิปริตด้วย เพราะ ต้องเอาพร้อมๆกัน...(เธอบอกชื่อของดารานักร้องสองคนนั้นออกมา) ให้เพิ่มอีกพันเดียว เราจะบอกว่าไม่เอาก็ไม่ได้ ไอ้สองคนนี่เหมือนกับจะฆ่าเราเลย แล้วต้องให้เราร้องดังๆ ด้วยนะ”

“เพราะฉะนั้นคนอายุ 30 ธรรมดาๆนี่รับแล้วสบายใจที่สุด” **********************

เมื่อถามว่าแล้วอะไรเป็นอุปสรรค์ที่คิดว่าหนักหนาที่สุดของการเป็นไซด์ไลน์ พวกเธอตอบอย่างพร้อมเพรียงว่า เรื่องของการเรียน

สาวน้ำหวาน ซึ่งนั่งเงียบมานานเริ่มจะหัวเราะได้บ้างบอกกับเราว่า เรื่องที่มหาวิทยาลัยคือสิ่งที่เธอจะต้องระวังอย่างมาก การเปิดเผยร่องรอยออกไปให้เห็นอาจจะทำให้ฝันของเธอพังไปเลย เพราะอาจารย์เขาประกาศจนหนาวอยู่ทุกวันว่า ถ้ามีข่าวคราวว่าคนไหนไปค้าประเวณี จะถูกไล่ออกสถานเดียว
“ เขาก็จ้องอยู่มากเลยพี่ สมมุติว่าเรามีอะไรผิดสังเกตุเนี่ย แย่เลย เพราะฉะนั้น เราจะต้องทำตัวไม่ให้โทรม นอนดึกไม่ได้เลย หรือถ้าแขกอยากจะให้เราไปตอนดึก เราก็ต้องบอกว่าขอตัวเพราะติดเรียนหนังสือ ไม่งั้นตื่นเช้ามาตาเขียวนี่แย่แน่”

แล้วรับแขกกันถึงในมหาวิทยาลัยมีมั้ย?

“ โอ้ยไม่มีพี่ สมัยก่อนเขาบอกว่า เออไปตึกนั้นจะเจอเด็กนั่งคว่ำซองบุหรี่อยู่แปลว่าคนนั้นทำ ไม่ใช่เลย เราไม่กล้ารับแขกจากข้างในหรอก อีกอย่างขืนทำอย่างงั้นเพื่อนด่าตาย แต่ไอ้เรื่องตั้งซองบุหรี่กลับหัวที่ตึกน่ะ หนูเองเคยได้ยินแต่รุ่นหนูไม่มี อีกอย่างเด็กๆในมหาลัยเนี่ยเราไม่รับเลยนะ เพราะเสี่ยง”

ด้วยเหตุนี้เองนักศึกษาไซด์ไลน์หลายคนจึงรับแขกมากไม่ได้ เธอเลือกเฉพาะที่จะรับแขกอาทิตย์ละสองวันโดยเฉลี่ย ทั้งๆ ที่ความต้องการของแขกนั้นมากเหลือเกินในแต่ละสัปดาห์ หรือในแต่ละคืน

“ รับเกินกว่าคืนละคนไม่ได้ เพราะ เราต้องทำตัวไม่ให้โทรม อย่างถ้าแขกคนไหนต้องกินเหล้าก่อน บางทีก็ต้องตอบปฏิเสธเหมือนกัน เพราะ พวกนี้พอกินเหล้าเข้าไปก็ไม่ค่อยแข็งตัว กว่าน้ำจะแตกก็นานมาก จนบางทีเราแสบเลยก็มี แล้วพอแสบๆ เนี่ย ราคาเราก็จะตก เพราะว่า ใครๆมาเขาจะมองว่าเราถูกใช้งานมามาก ก็ต้องไปลำบากหายาซิงมาสอดเข้าไปอีก ไอ้ยาพวกนี้มันจะทำให้เนื้อเรากระชับ แต่มันจะระคายเรามาก คือ ทำเราหมดแรง ไข้ขึ้นเลยบางที เราโทรม หนูไม่เคยเรียนตกต้องรักษาตัวมากๆ ด้วย”

“ เรื่องแขนพรุนก็แย่นะพี่”น้องบีสวนขึ้นมา “ คือพวกหนูเองก็กลัวเรื่องโรคเอดส์คะ ก็ต้องตรวจโรคบ่อยๆ พี่ดูแขนหนูสิ พรุนไปหมด เพราะ ต้องเจาะเลือดกันบ่อยๆ เรากลัวมากเรื่องนี้ เพราฉะนั้นถ้าแขกจะให้ทำสดๆ หนูไม่ยอมเด็ดขาด มาเสียเที่ยวก็ยอม”

ในเมื่อมันลำบากขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่เปลี่ยนไปเรียนมหาวิทยาลัยเปิดหรือเรียนที่มันถูกกว่านี้จะได้ไม่ต้องทำงานแบบนี้ไง ?

“ ไม่เอาหรอกพี่” น้ำหวานบอก “ พี่นึกออกมั้ยว่า ไปเรียนแบบนั้นมันไม่มีสังคม เราเลือกเรียนมหาลัยเอกชนดีๆ เพราะมันมีเพื่อน มีสังคม หนูว่ามันพากันไปได้ดีกว่า อย่างน้อยอยู่ในสังคมลูกคนรวย เราก็ไม่น่าจะถูกทิ้ง ตกอับถ้ารักกันจริง เพื่อนมันก็ยังช่วยเราได้ ซึ่งหนูว่าถ้าเรียนมหาลัยเปิด หรือ ที่ไกลมากๆ แต่ถูกๆ เนี่ย อยู่บ้านช่วยแม่ขายของดีกว่า” เธอบอกพร้อมกับมีเสียงตอบสนับสนุนว่า ใช่ๆๆๆ

นอกจากเรื่องของการศึกษาแล้ว ปัญหาเรื่องชีวิตก็ถือเป็นเรื่องลำบาก น้ำฝนบอกกับเราว่า เธอไม่สามารถจะมีแฟนหรือมีคนรักเป็นตัวเป็นตนได้เลยจากการทำงานนี้

“จริงๆเรื่องนี้ก็ไม่ถือว่าแปลกนะพี่ ไม่ใช่ว่าเขารับไม่ได้นะที่เราไปนอนกับคนอื่น ฝนเคยเจอคนหนึ่งตอนคบกันก็ดีหรอก ทำอะไรได้ทั้ง แต่พอวันหนึ่งเขาจะเลิกกับเรา ก็มาอ้างว่าเพราะเราทำตัวไม่ดี ทำงานแบบนี้เป็นคนไม่ดี มันเจ็บนะพี่ พวกฝนก็เลยคิดว่า ตราบใดที่เรายังทำอย่างนี้อยู่เราห้ามมีแฟนเด็ดขาด เพราะ มีแล้วร้อยทั้งร้อยเจ็บทั้งนั้น”
“ แต่อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ไม่เลว เพราะมีคนญี่ปุ่นมาติด เขาก็จ่ายเลี้ยงเราดีนะ ให้เดือนนึงตั้ง 4 หมื่น แต่พวกนี้ขี้หึง โทรตามตลอดจนหลังๆเราก็ไม่ไหว เช้าก็โทร เย็นก็โทร” น้ำฝนกล่าว

ก่อนจบการสนทนาเราถามน้ำฝนพี่ใหญ่ของกลุ่มว่า เมื่อจบการศึกษาแล้วเธอจะเลิกทำแบบนี้เลยหรือเปล่า ฝนกล่าวว่าเธอตั้งใจว่าจะทำอย่างงั้น เพราะตอนนี้เธอเริ่มที่จะไปฝึกงานตามบริษัทต่างๆซึ่งเป็นหนึ่งในหลักสูตรการศึกษาของพวกเธอแล้ว ฝนยืนยันว่าชีวิตที่ดีกว่าการขายเนื้อก็ยังมี

“ แล้วกิจการที่มีอยู่นี่หล่ะ เราจะทำยังไง ?”

เธอยักไหล่กล่าวว่า ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีอยู่หรือเปล่า แต่เธอเชื่อว่ามันต้องมีอย่างน้อยน้องๆ แต่ละคนก็สามารถที่จะสร้างเครือข่ายได้เอง แขกเก่าแขกใหม่ที่มีอยู่ก็สามารถที่จะช่วยจุนเจือความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจให้กับเด็กพวกนี้ได้

“ หนูย้ำอีกทีว่า ไม่มีใครอยากเดินเข้ามาทำตรงนี้ ถ้าเขาไม่เดือดร้อน ไอ้เรื่องที่ว่าคนเข้ามาทำเพราะอยากได้กระเป๋า โทรศัพท์ พวกนั้นก็มีแต่น้อย พวกหนูไม่ใช่แบบนั้น อย่างหลายคนที่พี่ไม่ได้เจอกันวันนี้ เขาก็มีหลักที่แตกต่าง เช่นเขาจะรับเฉพาะช่วงจ่ายค่าเทอมครบสี่หมื่นเขาก็หยุด ช่วงอื่นเขาก็ไม่รับแขก มันทรมานนะพี่ เพราะฉะนั้นหนูเชื่อว่าถ้าเขาสามารถหาเงินด้วยวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ได้ เขาก็จะเลือกอันนั้น”

เราเช็กบิลล์พร้อมให้ค่าตอบแทนกับเธอพวกเธอทั้ง 5 ตามที่ตกลงกันไว้ ก่อนจะรับหน้าที่สารถีมุ่งสู่ลาดพร้าวหอพักของพวกเธอ...

เพื่อให้พวกเธอใช้ชีวิตตามปรกติอย่างที่เธอเคยทำมา...
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://hatedara.niceboard.com
แบบว่า..
เธœเธนเน‰เธกเธฒเน€เธขเธทเธญเธ™




ถอดรหัส ไซด์ไลน์เมืองไทยชีวิตที่น่าเรียนรู้ Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: ถอดรหัส ไซด์ไลน์เมืองไทยชีวิตที่น่าเรียนรู้   ถอดรหัส ไซด์ไลน์เมืองไทยชีวิตที่น่าเรียนรู้ Icon_minitimeSun Dec 24, 2006 9:49 pm

อยากได้เบอร์บ้างอ่ะ Embarassed
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
 
ถอดรหัส ไซด์ไลน์เมืองไทยชีวิตที่น่าเรียนรู้
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ 
เธซเธ™เน‰เธฒ 1 เธˆเธฒเธ 1

Permissions in this forum:เธ„เธธเธ“เน„เธกเนˆเธชเธฒเธกเธฒเธฃเธ–เธžเธดเธกเธžเนŒเธ•เธญเธš
hate dara :: ข่าว(คาว)ดารา-
เน„เธ›เธ—เธตเนˆ: